โซมาเลียประเทศที่เคยเต็มไปด้วยโจรสลัดที่มักโจมตีเรือบรรทุกสินค้าด้วยอาวุธสงคราม จนส่งผลให้ภาพลักษณ์ของโจรสลัดโซมาเลียกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาชาวโลก และด้วยสถิติการโจมตีที่มากถึง 300 ครั้งต่อปีของพวกเขา ได้สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจระดับในโลก
แต่แล้วการโจมตีดังกล่าวก็ลดจำนวนลงจนแทบกลายเป็นศูนย์ และเรื่องราวของโจรสลัดโซมาเลียก็หายไปจากกระแสข่าวด้วยสาเหตุที่แทบไม่น่าเชื่อว่า เหล่าโจรสลัดโซมาเลียเปลี่ยนจากจับปืนไปจับปลาเพื่อส่งขายให้กับ คิโยชิ คิมูระ (Kiyoshi Kimura) ชายชาวญี่ปุ่น เจ้าของร้านซูชิซันไม ที่อยู่ไกลจากโซมาเลียออกไปหลายพันไมล์
เขาทำได้อย่างไร?
คาบสมุทรโซมาเลียขึ้นชื่อว่าเป็นบริเวณที่มีปลาทูน่าชุกชุม แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปจับเพราะเกรงกลัวอิทธิพลของโจรสลัดโซมาเลีย ในปี 2011 คุณคิมูระ จึงติดต่อขอเข้าไปพูดคุยแบบเปิดอกกับโจรสลัดกลุ่มนี้ ทำให้ คุณคิมูระ รู้ว่าที่จริงพวกเขาไม่ได้อยากเป็นโจรสลัดกันนักหรอก แต่เพราะความสูญเสียในสงครามกลางเมืองและความอดอยากที่ทำให้พวกเขาต้องผันตัวเองมาเป็นโจร อีกอย่างพวกเขาก็ไม่มีความรู้ในการทำอาชีพอื่นเลย
คุณคิมูระ คิดอยากจะเปลี่ยนโจรสลัดเหล่านั้นให้หันมาหาเลี้ยงชีพด้วยวิธีสุจริต จึงแนะนำพวกเขาให้ออกทะเลไปยังน่านน้ำเดิมที่พวกเขาคุ้นเคยแต่เปลี่ยนการจี้ปล้นมาเป็นการจับปลาทูน่าแทน โดยที่ คุณคิมูระ จะรับซื้อปลาทูน่าทั้งหมดไว้เอง นอกจากนี้ คุณคิมูระ ยังช่วยสอนวิธีการจับปลา ให้เรือประมง สร้างห้องเย็นไว้เก็บปลา และจะหนุนเต็มที่ให้พวกเขาได้เข้าร่วม สมาคมปลาทูน่าแห่งมหาสมุทรอินเดีย( IOTC)
“ผมคิดว่าการสอนคนให้จับปลาดีกว่าการให้ปลาไปเปล่าๆ ถ้าเราแค่ให้ปลาเพื่อประทังความหิว สักวันปลาก็จะหมด แต่ถ้าเราสอนวิธีการจับปลาให้ พวกเขาก็จะสามารถจับปลากินเองได้ไปตลอดชีวิต” คุณคิมูระ เปิดเผยแนวคิดที่ทำให้เขากลายเป็นผู้ให้ชีวิตใหม่แก่เหล่าโจรสลัดโซมาเลีย
ทุกวันนี้โจรสลัดโซมาเลียกลุ่มใหญ่ได้เปลี่ยนอาชีพหลักจากการปล้นมาเป็นการส่งออกปลาทูน่าแทน จนสามารถส่งออกไปยังต่างประเทศกว่า 100 ตันต่อปี และในปี 2013 คุณคิมูระ ได้รับเหรียญรางวัลจากรัฐบาลประเทศจิบูตี ในความพยายามลดจำนวนโจรสลัดลง
เรียบเรียงจาก : The Liberty Web / Grape