fbpx

ฮิญาบ มิตรภาพ และการเดินทางสู่ทุ่งหญ้าสีทอง

ย้อนกลับไปเมื่อ ปี 2014 ชีวิตของนักศึกษาปี 2 ที่เรียนออกแบบอาจจะดู cool ในสายตาของใครหลายคน แต่ความจริงนั้นชีวิตเรามันไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่า cool เลยสักนิด เพราะทุกอย่างในชีวิต ณ ตอนนั้น มันร้อนรนไปหมด ไหนจะโปรเจคต์ที่จะต้องอดข้าว อดน้ำ อดนอน เพื่อที่จะได้มีงานไปพรีเซนท์ในคลาสกันแบบวันต่อวัน ไหนจะต้องมารับมือกับคำวิจารณ์ของเหล่าคอมเมนเตเตอร์ที่ชวนให้หัวร้อน และเมื่อปลายปีที่ลมหนาวมาเยือน นักศึกษาหัวร้อนคนนี้เลยขอตัดสินใจพักชีวิตที่ร้อนรนของตัวเองออกไปหาที่ cool cool สูดออกซิเจนให้ล้นปอดสักหน่อย

การออกเดินทางท่องเที่ยวของหลายคนจะมีสไตล์ที่แตกต่างกันไปแล้วแต่ความชอบ บางคนชอบที่จะเลือกพักในโรงแรมที่สะดวกสบายมีสิ่งอานวยความสะดวกทุกอย่าง ตกกลางคืนได้นอนห้องแอร์ มีเตียงนุ่มๆ ผ้าห่มหนาๆ ตื่นขึ้นมาก็มีอาหารเช้าพร้อมเสิร์ฟมันดูจะเป็นการพักผ่อนที่สุดฟินมากๆ

เราเองก็เคยชอบการท่องเที่ยวแบบนั้น แต่หากเราลองเปิดใจออกเดินทางด้วยตัวเองไปเจอกับความลาบากที่รออยู่ข้างหน้า และเมื่อเราไปถึงจุดๆ นั้นได้ สิ่งที่รอเราอยู่มันคุ้มค่ามากพอที่จะทำให้เรายอมผ่านความยากลำบาก

การออกเดินทางครั้งนี้ ถือเป็นทริปแรกที่เราได้แบ็คแพคเที่ยวเองแบบจริงจัง เป็นการรวมตัวกันของเพื่อนกลุ่มหนึ่ง ที่ภายหลังจากจบทริปนี้ก็ได้กลายมาเป็นชาวแก๊งค์ที่ไม่ว่าจะไปไหน ทำอะไร เราก็จะอยู่ด้วยกันเสมอ

ทริปแรกที่เราแบ็คแพคไปนั่นก็คือ ดอยม่อนจอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยดอยม่อนจองเป็นดอยที่สูงเป็นอันดับที่ 6 ของการจัดอันดับดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย

พวกเราเตรียมตัวกันมาอย่างดี แต่ก็ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเจออะไรบ้าง เมื่อมาถึงจุดเดินขึ้นดอยขอบอกว่าอากาศหนาวมากๆ เรียกได้ว่ามีพร็อพอะไรที่ช่วยกันหนาวได้นี่งัดกันออกมาจากกระเป๋ากันแทบไม่ทัน แต่พี่วินคนนำทางกลับบอกว่า “อย่าใส่เลยเสื้อกันหนาวกับหมวกหนะ เดี๋ยวจะร้อนกันและหายใจไม่ออก”   ในใจก็คิดว่า  “จะร้อนได้ไงวะพี่ เพราะนี่ก็หนาวกันจะแย่อยู่แล้ว” …สรุปก็ไม่มีใครฟังคำเตือนของพี่วินสักคน ต่างคนต่างจัดเต็มกับพร็อพกันหนาวส่วนตัว ทั้งหมวกและเสื้อไหมพรม

แต่เมื่อออกเดินได้ไม่ถึง 15 นาที เชื่อไหมว่าไอ้ที่พี่วินบอกว่าจะร้อนคือมันร้อนจริงๆ แบบร้อนจนแทบหายใจไม่ได้ พวกเราเลยตัดสินใจหลบเข้าข้างทาง ถอดพร็อพทุกอย่างยัดลงใส่กระเป๋ากันจนหมดตัว หลังจากนั้นก็รู้สึกว่าเออ…มันไม่หนาวเลย กลับเดินสบายตัวมากขึ้นกว่าเดิมและหายใจได้สะดวกขึ้น เออแฮะ…น่าจะเชื่อพี่วินตั้งแต่แรก

สำหรับเราที่พึ่งเคยเดินขึ้นดอยเป็นครั้งแรก อยากบอกเลยว่าค่อนข้างจะเหนื่อยพอสมควร เพราะระหว่างทางไม่ใช่ทางเรียบธรรมดาต้องใช้สกิลปีนป่ายเล็กน้อย และทางค่อนข้างชัน

ระหว่างทางที่เดินขึ้นมาเรื่อยๆ นั้น พวกเราก้มหน้าก้มตาเดินสลับกับบ่น บ่นว่าเมื่อไหร่จะถึง บ่นว่าอีกไกลไหม อารมณ์จะถ่ายรูปสวยๆ นี่ก็ไม่ค่อยจะมีกันเท่าไหร่ แต่เมื่อสิ้นสุดการรอคอย กับดอยแห่งแรกที่ได้มาเหยียบ เมื่อเราได้เห็น ทุ่งหญ้าสีทอง คำบ่นทุกคำหายไป และเหมือนกับว่าความเหนื่อยที่สะสมมาตลอดทางก็ปลิวไปกับลมเย็นๆ ที่มันพัดมาปะทะตัว

รู้สึกถึงออกซิเจนที่เราสามารถสูดมันมากแค่ไหนก็ไม่มีวันพอ และที่ยิ่งไปกว่านั้นเรารู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของผู้ที่สร้างสถานที่แห่งนี้ขึ้นมา ดอยม่อนจองอาจจะไม่ใช่ดอยที่สวยที่สุด แต่ใน ณ เวลานั้น สำหรับเราคนที่เคยเอาแต่นั่งหน้าคอมฯ ปั่นโปรเจคให้เสร็จทันเวลา ใช้ชีวิตอยู่ในย่านที่รถติดเป็นอันดับ 1 ของกรุงเทพฯ มาตลอดกลับรู้สึกว่า…ไม่ที่ไหนจะสวยมากไปกว่าทุ่งหญ้าสีทองผืนนั้นอีกแล้ว

การออกเดินทางในครั้งนั้นทำให้เรา “หลงรัก” การแบ็คแพ็คอย่างจัง และมันทำให้เรารู้ว่า ยังมีที่ cool cool อีกมากมายที่รอให้เราไปสัมผัส เราคิดว่าเราพร้อมที่ผจญภัยแล้ว

เรื่องโดย : Austyn36 (สวยล่ำ)

อ่านเรื่องนี้แล้วคิดอย่างไร ?

About author View all posts

Azlan

กองบรรณาธิการรุ่นเล็ก