ว่าด้วยเรื่องของเครป เมนูแห่งความทรงจำของใครหลายๆ คนในวัยเด็ก ด้วยกลิ่นหอมๆ ชวนหิว แต่ดันมักซื้อทานไม่ค่อยได้เพราะวัตถุดิบและกรรมวิธีส่วนใหญ่ที่ไม่ฮาลาล เด็กมุสลิมอย่างเราๆ รวมถึงผู้ใหญ่หลายๆ คน ณ ช่วงเวลานั้นก็คงได้แต่เดินผ่านด้วยความนึกคิดที่อยากจะลองลิ้มชิมรส รสชาติของเครปที่โชยกลิ่นหอมกับเขาบ้างสักครั้ง
crepe.ster (เครป-สะ-เตอร์ ) ร้านเครปอินดี้ ของสองสาวเพื่อนซี้ต่างวัยที่ผันตัวเองจากมนุษย์เงินเดือนมาเปิดธุรกิจร้านเครปฮาลาลเป็นของตนเองอย่างจริงจัง
crepe.ster เกิดจากความชอบรับประทานเครปของ ฟาดีละห์ แต่ด้วยความที่ร้านเครปมุสลิมที่มีไส้ระดับพรีเมี่ยมนั้นหายากมาก เลยตัดสินใจชวน นูรียะห์ เพื่อนซี้จับมือกันลาออกจากงานแล้วหันมาเปิด ร้านเครปฮาลาล
“ช่วงแรกของการเปิดร้านต้องยอมรับว่าเริ่มต้นจากศูนย์ ไม่มีสูตร ไม่มีอุปกรณ์ แต่มีทุนจากแม่และพี่สาว มันเกิดจากความที่ใจอยากทำเลยไปเริ่มเรียนทำเครป หลังจากนั้นก็เริ่มลุย จำได้ว่าหมุนแป้งเครปทิ้งไปเป็นร้อยๆ แผ่นกว่าจะลงตัว แล้วเรียกเพื่อนๆ มาชิม ในช่วงแรกเราไม่ได้เปิดหน้าร้านเลยแต่เราเลือกไปออกอีเว้นท์เพื่อให้คนรู้จากเราก่อน ขายวันแรกจำได้เลยว่าขายได้เป็นหมื่น แต่ปรากฏว่าเราไม่ได้กำไรอะไรเลย เพราะเรายังไม่มีประสบการณ์ ยังบริหารไม่เป็น ครั้งแรกของของการขายก็เหมือนกับว่าเราไปเหนื่อยฟรี แต่ตอนนั้นก็ไม่มีใครท้อเพราะมองว่านี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น”
ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์ หลายคนข้างกายจึงทักท้วง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้สองเพื่อนซี้หยุดไล่ล่าความฝันของตนเอง “มีหลายเสียงหลายคนทักท้วงในการเริ่มต้นนะ แต่ด้วยความรั้นของพวกเราสองคน อยากทำ อยากลองทำร้านเลย ทั้งๆ ที่เหมือนคนยังขับรถไม่แข็ง แต่ก็เริ่มต้นด้วยการออกอีเว้นท์เลย ซึ่งถ้าขายไม่ดีคนส่วนใหญ่อาจคิดว่าอัลลอฮฺคงอยากให้เธอไปขายอย่างอื่นดีกว่านะ แต่เราไม่คิดแบบนั้น มันต้องเจอสักวิธีถ้าวิธีนี้ไม่เหมาะมันต้องมีวิธีอื่น อัลลอฮฺต้องให้เห็นทางอื่นให้เราเดินไป”
ทุกวันนี้ crepe.ster มีไส้เครปมากกว่า 50 ไส้ และไม่หยุดที่จะคิดค้นไส้ใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้เลือกรับประทาน รวมถึงเมนูพิเศษที่แค่ชื่อก็ดูน่ารับประทานและสัมผัสได้ถึงความพรีเมี่ยมอย่างเช่น บานอฟฟี่เครป ที่เสริฟพร้อมวิปครีมสด ความพิเศษคือต้องทานที่ร้าน และเครปสลัดเคบับไก่ ที่จะไม่มีในร้าน แต่ต้องไปทานที่อีเว้นท์เท่านั้น โดยไส้เครปแต่ละไส้ถูกคิดขึ้นโดยคุณนูรียะห์ คนที่สารภาพว่าเมื่อก่อนไม่ได้ชอบรับประทานเครปแม้แต่น้อยแต่ปัจจุบันกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครปไปเสียแล้ว
“ที่อัลลอฮฺได้ให้เราเป็นคนไม่ชอบทานเครปมาก่อน มันเลยทำให้เรารู้สึกว่ามันน่าจะมีไส้อื่นๆ บ้างที่คนไม่กินเครปรู้สึกอยากกิน เครปเป็นอาหารที่ไม่เหมือนขนมอย่างอื่น คืออะไรที่มันอร่อยมากเกินไปเวลามาอยู่บนเครปมันจะเข้ากันไม่ได้ เรื่องง่ายๆ เช่นซอสมะเขือเทศ แม้จะเป็นยี่ห้อที่ใครบอกว่าดีที่สุดแต่พอมาอยู่กับไส้มันอาจไม่ใช่ยี่ห้อที่ทำให้เครปอร่อยที่สุดก็ได้ เราเลยต้องมาลองว่ามันเข้ากันไหม
ทุกสิ่งที่ทำต้องมีดีเทล แต่เครปจะอร่อยจริงๆ ต้องอร่อยที่แป้ง ไส้เป็นแค่ตัวเสริม ทางเราจะไม่เน้นไส้เยอะ แต่ไส้ต้องเป็นไส้พรีเมี่ยมที่ราคาปานกลาง เราจะยืนพื้นที่แป้งกลิ่นวานิลา เพราะเราต้องการความออริจินอล ต้องการให้คนที่กินเครปของเรามีความรู้สึกร่วมไปกับเราคือความดั้งเดิม เราอยากคงเสน่ห์เครป และ crepe.ster ไว้ตรงนี้”
แม้จะขึ้นชื่อว่าร้าน เครป แต่ก็ไม่ได้มีไม่เพียงแต่เมนูเครปเท่านั้นทางร้านยังมีเมนูทานเล่นอื่นๆ ให้ลูกค้าได้เลือกรับประทานอย่าง สปาเกตตี้ โทสต์ เครื่องดื่ม แซนวิซ สลัดโลว์ ซึ่งแน่นอนวัตถุดิบที่คัดสรรค์มาก็พรีเมี่ยมไม่แพ้เครปเช่นกัน
และด้วยนิสัย เฮฮา ชอบการพูดคุย ที่สำคัญคืออยากเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบความสุขของสองสาว เป้าหมายอีกอย่างหนึ่งของ crepe.ster คือการไปออกบูธตามงานอีเว้นท์ต่างๆ โดยเฉพาะงานทางด้านศาสนา
“เราอยากเป็นส่วนหนึ่งกับชุมชนและพื้นที่ที่เราไป ไม่ว่าลูกค้าจะไปที่ไหนก็อยากให้นึกถึงเครปร้านเรา รวมถึงตั้งใจที่จะทำเครปแจกฟรีตามงานชุมชน งานศาสนา แต่ตอนนี้เราต้องเน้นไปที่การอยู่รอดก่อน แต่ก็ยังทำเหมือนเดิมคือถ้ามีงานศาสนาเราก็จะไป ให้คนจำภาพเราว่าถ้ามีงานศาสนาที่ไหนจะมีเราที่นั่น ในขณะที่เขาอาจจะยุ่งอยู่กับการบริจาค หรือทำอิบาดะห์ แต่มันมีบรรยากาศสนุกๆ ในงานคือ เราจะไปยืนรอเครป เราจะไปพูดคุยกันหน้าร้านเครป ให้เหมือนเป็นสีสันต์ในทุกๆ ที่ที่เราไป แล้วพอเราตั้งแนวทาง(เหนียต) ไว้อย่างนั้นมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ”
ปีนี้เป็นปีที่ 2 แล้วของ crepe.ster ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา อุปสรรค์ในแต่ละวันก็มีโจทย์และวิธีการแก้ไขที่แตกต่างกันไป
“เราเป็นคนที่ไม่รู้มาก่อน ไม่เคยมีธุรกิจ หรือประสบการณ์ อุปสรรคในแต่ละวันก็จะไม่เหมือนกัน ทุกวันนี้ก็ยังรู้สึกว่าเรายังเหมือนคนเพิ่งเริ่ม และพร้อมที่จะเริ่มใหม่ทุกๆ วัน อย่างที่บอกว่าปัญหามันมีเข้ามาตลอดให้เราเรียนรู้ วันนี้เราคิดว่าสำเร็จแล้วแต่ที่จริงคือไม่ เพราะมันยังมีประตูอีกหลายๆ บานให้เราเปิดประตูไปเรื่อยๆ อย่างเช่นเราไปออกอีเว้นท์แต่ช่วงเวลานั้นฝนตก ก็จะทำให้เครปของเราไม่กรอบ ซึ่งอุณหภูมิและสภาพแวดล้อมก็เป็นปัจจัยต่อการทำเครปของเรา คือทุกอย่างต้องเปะจริงๆ”
อีกหนึ่งโจทย์สำคัญที่ crepe.ster พยายามหาทางแก้ให้กับลูกค้าของพวกเขาก็คือเรื่องวัตถุดิบที่ฮาลาล เพราะไส้เครปบางอย่างที่ร้านเครปพรีเมี่ยมทั่วไปเขาทำกัน ทางร้านไม่สามารถทำได้เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่หายากและต้นทุนค่อนข้างสูง
“ไส้บางไส้ที่ลูกค้าอยากจะทานมากๆ แต่เราไม่มีทั้งๆ ที่ร้านเครปทั่วไปมี เช่น ไข่กุ้ง เพราะไข่กุ้งตามท้องตลาดทั่วไปจะเคลือบด้วยแอลกอฮอล์ แต่ถ้าเป็นไข่กุ้งฮาลาลต้องนำเข้าซึ่งจะมีต้นทุนค่อนข้างสูง เราก็ไม่สามารถทำให้ลูกค้าได้ ถ้าเป็นไปได้เราก็อยากทำให้ลูกค้าทาน แต่หากเราขายมันอาจทำให้เราท้อได้ เพราะบางอย่างเราอาจทำไม่อร่อยเท่าเจ้าที่ไม่ฮาลาล สิ่งสำคัญที่สุดของเราคือต้องทำให้ฮาลาลที่สุดเพื่อความสบายใจของลูกค้า
มันมีคำพูดหนึ่งจากลูกค้าที่เราประทับใจ คือ เขาบอกว่าภูมิใจที่มุสลิมมีร้านเครปฮาลาลที่อร่อยแบบนี้ เขาพูดแบบนี้เลยทำให้เรารู้สึกว่าเราทำงานของเราได้ดีแล้ว ถึงแม้มันจะอร่อยไม่ได้ที่สุด แบบที่สุด ที่เขาเคยทานกันมาในโลกนี้ แต่เราก็เทียบเท่าเขาได้”
และนี่คืออีกหนึ่งมุมมองของคำว่า อาหารฮาลาล ในคำจำกัดความของ crepe.ster และเป็นคำตอบที่ชวนคิดให้กับผู้ประกอบการหลายๆ ร้านได้ลองย้อนกลับไปถามตนเอง
“ความซื่อสัตย์กับสิ่งที่เราขายจึงสำคัญ เราบอกกับลูกค้าไปว่าของเราฮาลาล มันฮาลาลจริงหรือเปล่า เราต้องขายสิ่งที่ฮาลาลที่สุดให้กับลูกค้า คำว่าอาหารฮาลาลมันต้องฮาลาลหมด ตั้งแต่เงินทุนไปยันเครปที่เราส่งไปในมือลูกค้า”
หากใครผ่านไปผ่านมาแถวโรงเรียนอิสลามสันติชน อย่าลืมแวะไปอุดหนุนร้านเครปฮาลาลที่มีดีมากกว่าคำว่าเครปพรีเมี่ยม อย่าง “crepe.ster” ให้รู้กันไปเลยว่าเครปฮาลาลก็อร่อยไม่แพ้ใคร
ติดตาม : Facebook crepe.ster
ที่ตั้งร้าน : 375 ซอยลาดพร้าว 112 ถนนลาดพร้าว แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร เปิดแผนที่
โทร : 090 990 0375
