fbpx

ARISA MARYAM มุสลิมใหม่ชาวญี่ปุ่น ผู้พกพาภาพลักษณ์อิสลามทุกครั้งที่ออกเดินทาง

การได้มีโอกาสพบปะกับคนญี่ปุ่นที่เป็นมุสลิมก็นับว่าเป็นเรื่องยากแล้ว แต่การได้พบกับคนญี่ปุ่นที่เป็นมุสลิมใหม่นั้นเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า ARISA MARYAM มุสลิมใหม่ชาวญี่ปุ่น ผู้เอาชนะทุกความยากลำบากเพื่อค้นหาศรัทธาที่แท้จริง เธอใช้ประสบการณ์ของตัวเองในการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนรอบข้างหันมาเข้าใจอิสลามผ่านงานเขียนในบล็อกของเธอ เธอคือนักเดินทางตัวยงที่สามารถทำตัวเองให้ดูดีได้ตลอดเวลาแม้ในขณะเดินทาง เราลองมาทำความรู้จักกับตัวตนของเธอ รวมถึงเคล็ดลับดีๆ ในการท่องเที่ยวอย่างมีสไตล์ในแบบของเธอกัน

ก่อนอื่นช่วยแนะนำตัวคุณหน่อยค่ะ ?

ดิฉันชื่อ Nur Arisa Maryam เป็นมุสลิมใหม่ชาวญี่ปุ่น ฉันกล่าวปฏิญาณตนเข้ารับอิสลามเมื่อปี 2015 ค่ะ  อัลฮัมดุลิลลาฮ ขอบคุณพระเจ้า

อะไรคือแรงบันดาลใจที่ทำให้คุณอยากเป็นมุสลิมคะ ?

ฉันตัดสินใจเข้าปฏิญาณตนรับอิสลามหลังจากที่ได้อ่านอัลกุรอานฉบับแปลเป็นภาษาญี่ปุ่น ตอนนั้นฉันรู้สึกไม่มีเหตุผลใดที่ฉันจะไม่ศรัทธาในอัลลอฮอีกแล้ว หลังจากที่ได้อ่านอัลกุรอานมันรู้สึกเหมือนอัลลอฮรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเรา

ครอบครัวและเพื่อนๆ ของคุณมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้างคะ หลังจากที่คุณได้บอกพวกเขาไปว่าคุณเป็นมุสลิมแล้ว ?

พอฉันเริ่มเป็นมุสลิม สิ่งที่ยากที่สุดคือการทำให้คนในครอบครัวเข้าใจต่อการตัดสินใจของฉัน โชคดีที่น้องสาวของฉันพอจะมีความรู้เกี่ยวกับอิสลามอยู่บ้าง เธอจึงรู้สึกยินดีกับฉันเมื่อรู้ว่าฉันเป็นมุสลิม จะมีก็เพียงแต่แม่ของฉันที่ยังยอมรับในการเปลี่ยนศาสนาของฉันไม่ได้ เธอรู้สึกเหมือนถูกทรยศที่ฉันเข้ารับอิสลามโดยไม่ได้ปรึกษาใคร วันนั้นเธอตะโกนใส่ฉันดังๆ ด้วยว่า “แกไม่ใช่ลูกฉันอีกต่อไป”

ฉันไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไป ฉันเพียงแต่ขอดุอาอ์ต่ออัลลอฮเท่านั้น แม้ว่าเราจะไม่พูดจากันอีกเลยเป็นเวลาหลายวันหลังจากนั้น แต่ในที่สุดแม่ของฉันก็เดินมาหาฉันด้วยน้ำตาและขอโทษกับสิ่งที่เธอได้พูดไปในวันนั้น

แน่นอนว่าช่วงแรกๆ แม่มักจะพูดอะไรทำนองที่ว่า “ลูกห้ามใส่ฮิญาบนะ” หรือ “แม่ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมลูกต้องไม่กินหมู” แต่รู้ไหมว่าเดี๋ยวนี้แม่ไปมัสยิดกับฉันด้วยนะ และบางครั้งท่านก็ช่วยเลือกผ้าคลุมศีรษะให้ฉันด้วย และท่านก็ช่วยตั้งชื่อใหม่ให้ฉันด้วยว่า “มัรยัม” อัลฮัมดุลิลลาฮ

อะไรเกี่ยวกับอิสลามที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งในเวลาที่คุณเดินทาง ?

ไม่ว่าฉันจะได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนประเทศใดก็ตาม ฉันมักจะรู้สึกประทับใจกับความใจดีมีเมตตาของชาวมุสลิมเสมอ ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมากที่มุสลิมมักกล่าวทักทายกันด้วยสลามและรอยยิ้ม และมุสลิมมักจะช่วยเหลือกันและกันเสมอ

อะไรคือความแตกต่างที่คุณพบเจอระหว่างตอนที่คุณเดินทางในฐานะมุสลิมและก่อนที่จะมาเป็นมุสลิม และคุณมีวิธีรับมือกับความแตกต่างเหล่านั้นอย่างไรบ้างคะ ?

คือการต้องคิดเรื่องเวลาละหมาดทุกครั้งที่ฉันต้องเดินทาง ก่อนหน้าที่ฉันจะเป็นมุสลิม ฉันมักจะใช้เวลาในการไปไหนมาไหนทั้งวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องใดๆ แต่เดี๋ยวนี้ฉันต้องเริ่มเรียนรู้การใช้ชีวิตให้ตรงกับเวลามากขึ้น ช่วงแรกๆ ที่ฉันยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้ ฉันมักจะรู้สึกว่ามันค่อนข้างยากที่จะต้องมาละหมาดในเวลาเดินทางหรือเมื่อต้องออกไปไหนมาไหน แต่ปัจจุบัน แค่ออกจากบ้านฉันก็ตั้งหน้าตั้งตารอเวลาละหมาดเสียแล้ว

ได้อ่านบล็อกของคุณแล้วรู้สึกได้แรงบันดาลใจมากเลยค่ะ คุณพยายามเปิดเผยอย่างจริงใจในการแบ่งปันเรื่องราวการเดินทางของคุณ ตลอดจนเรื่องเล่าการเดินทางของชีวิตในฐานะมุสลิมใหม่ด้วย อะไรที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณเริ่มเขียนบล็อกคะ ?

ขอบคุณสำหรับคำชมมากๆ ค่ะ ตอนที่ฉันยังไม่ได้เป็นมุสลิม ฉันรู้สึกว่าการได้พบมุสลิมใหม่นั้นเป็นเรื่องยาก ในช่วงนั้นฉันได้ไปเห็นอินสตาแกรมของนางแบบสาวชาวมาเลเซียคนหนึ่งที่ชื่อว่า Raisyyah Rania Yeap เธอไม่ได้แตกต่างอะไรไปจากสาวมุสลิมทั่วไป แต่ฉันรู้สึกว่าเธอสวยมากเมื่อเธอแต่งตัวปกปิดเรือนร่างมิดชิด และเมื่อฉันได้ทราบข่าวว่าเธอเข้ารับอิสลาม ฉันรู้สึกยินดีไปกับเธอมากๆ และมันก็กลายเป็นที่มาของความกล้าทั้งปวง จนฉันรู้สึกมั่นใจที่จะเข้ามาเป็นมุสลิมเช่นกัน และนั่นจึงเป็นที่มาที่ทำให้ฉันเริ่มต้นใช้อินสตาแกรมของฉันเพื่อเป็นช่องทางในการสนับสนุนให้กำลังใจและยกระดับความกล้าแก่คนที่อยากเป็นมุสลิมแต่ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร

ในฐานะที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีประชากรส่วนใหญ่ไม่ใช่มุสลิม คุณลองเล่าประสบการณ์ของคุณในฐานะที่เป็นมุสลิมสวมฮิญาบในที่นั่นได้ไหมคะ?

ครั้งแรกที่ฉันเริ่มสวมฮิญาบนั้นฉันยังไม่ได้เป็นมุสลิม แต่ฉันจำได้ถึงความรู้สึกที่มันให้ความสงบในจิตใจมากมายอย่างบอกไม่ถูก แต่กระนั้นด้วยเพราะว่าในญี่ปุ่นไม่ค่อยมีคนสวมฮิญาบให้ได้เห็นเท่าใดนัก เราจึงมักจะตกเป็นเป้าสายตาอยู่บ่อยครั้ง มันเหมือนกับอยู่ดีๆ ฉันก็กลายเป็นคนมีชื่อเสียงไปซะอย่างนั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ฉันไม่ค่อยกล้าที่จะสวมฮิญาบอยู่ตลอดเวลา แต่หลังจากที่กล่าวปฏิญาณตนเข้ารับอิสลามแล้ว ความมั่นใจของฉันกลับเปี่ยมล้นอย่างไม่น่าเชื่อ  เดี๋ยวนี้เวลาที่ฉันเดินไปไหนมาไหนฉันมักจะถูกทักทายจากผู้คนมากมาย พวกเขามักจะชมว่าฮิญาบของฉันสวยงาม

มีเคล็ดลับดีๆ ที่อยากจะแนะนำให้กับมุสลิมทั่วไปที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นหรือมาเที่ยวญี่ปุ่นบ้างไหมคะ?

หากคุณสวมฮิญาบในประเทศญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ คุณจะเจอแต่คนเรียกคุณหรือหยุดเดินเพื่อพูดคุยกับคุณ ใช่แล้ว ! ทุกคนช่างน่ารักจริงๆ

เราชอบสไตล์การแต่งตัวของคุณมาก คุณมีเคล็ดลับดีๆ แนะนำให้กับนักเดินทางชาวมุสลิมที่อยากจะแต่งตัวให้เหมาะสมและดูดีแม้กระทั่งอยู่ในระหว่างการเดินทางไหมคะ?

ฉันดีใจที่ได้ยินเช่นนั้นค่ะ ขอบคุณมากๆ อันดับแรกเลย ไม่ว่าฉันจะแต่งตัวกับชุดใดก็ตาม ฉันจะจดจำเสมอว่าฉันสวมใส่มันเพื่ออัลลอฮ หรือแม้แต่เวลาที่เราสวมเสื้อผ้าที่ดู “สวยงาม” หากเราใส่มันเพื่อแฟชั่น นั่นก็ถือว่าไม่ดีในสายตาอิสลาม นั่นไม่ใช่ ”ความงาม” ที่แท้จริง โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องเดินทางมาประเทศญี่ปุ่น ฉันคิดว่ามันสำคัญที่คุณจะต้องมีความมั่นใจกับการแต่งกายในแบบอิสลามของคุณ เนื่องจากสาวมุสลิมะห์ที่นั่นมักจะดูโดดเด่นมาก แล้วคุณจะพบว่าใครๆ ก็เดินเข้ามาบอกกับคุณว่า การแต่งกายในแบบสาวมุสลิมะห์นั้นดูดีและน่าสนใจยิ่งกว่าใส่กางเกงเสียอีก

หากเติมคำลงในช่องว่างว่า “ความหวังของฉันต่อโลกใบนี้คือ…” คุณจะเติมว่า ?

เราทุกคนเรียนรู้ที่จะให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ว่าใครจะมาจากเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา หรือวัฒนธรรมใดก็ตาม

 

แปลและเรียบเรียงโดย : Andalas Farr
ที่มา : MEET ARISA MARYAM, A JAPANESE MUSLIM REVERT WHO DEFIED ALL ODDS

 

อ่านเรื่องนี้แล้วคิดอย่างไร ?

About author View all posts

Andalas Farr

คุณแม่ลูกสามผู้หลงใหลงานแปลภาษาเป็นชีวิตจิตใจ และรักงานเขียน งานสอนที่เชิญชวนสู่เส้นทางแห่งความดี ไม่ได้เป็นลูกครึ่งแต่รู้สึกผูกพันกับภาษาอังกฤษเป็นพิเศษ ชนิดเห็นประโยคแล้วสมองต้องประมวลภาษาโดยอัตโนมัติ Andalas จบการศึกษาระดับปริญาตรีและโทคณะมนุษย์ศาสตร์เอกภาษาอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยอิสลามนานาชาติประเทศมาเลเซีย ปัจจุบันใช้ชีวิตส่วนใหญ่ไปกับครอบครัว ลูก และตัวอักษร