fbpx

TEDTalks คัดสรรค์ 10 คลิปที่ควรดูเกี่ยวกับอิสลามและความเป็นมุสลิม

TEDTalks

เว็บไซต์ Ted.com ได้คัดสรรค์ 10 คลิปที่บอกว่าเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความเข้าใจผิดต่ออิสลามและความเป็นมุสลิม โดยทั้ง 10 คลิปเป็นการพูดโดยชาวมุสลิมหลากหลายวงการ บนเวทีแห่งแรงบันดาลใจอย่าง TEDTalks

ส่วนใครที่ยังไม่รู้ว่า TEDTalks คืออะไร ขออนุญาตยกคำอธิบายจากเว็บไซต์ Marketingoops.com ที่อธิบายไว้ค่อนข้างดีมานำเสนอคะ

คลิ๊กอ่าน TEDTalks คืออะไร (ข้อความที่ซ่อนไว้)
TED เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1984 นิยามตัวเองเป็น ‘nonprofit, nonpartisan foundation’ คือองค์กรที่เป็นกลางและไม่แสวงหากำไร มีจุดเริ่มต้นจากงานสัมมนาที่พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่อง Technology, Entertainment และ Design (ที่มาของคำว่า TED) และมีการจัดงานมาอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นรูปแบบของเวทีทอล์คที่มีจุดประสงค์เพื่อสร้างพื้นที่สำหรับเผยแพร่ไอเดียที่มีพลัง จากเหล่า Speaker ที่มีเวลาพูดไม่เกิน 18 นาที  ส่วน Speaker นั้นมาจากการคัดเลือกของกรรมการและทีมงานของ TED

หัวข้อสำหรับพูดใน TED ปัจจุบันนั้นขยายออกไปสู่ประเด็นอื่นๆเกือบจะทุกหัวข้อตั้งแต่ประเด็นวิทยาศาสตร์, ธุรกิจ ไปจนถึง ประเด็นใหญ่ๆในโลก  ไม่ได้จำกัดเฉพาะสามหัวข้อข้างต้นอีกต่อไป  และยังพยายามทำลายข้อจำกัดการเข้าถึงด้านภาษา ด้วยการแปลเป็นภาษาอื่นๆกว่า 100 ภาษา

สำหรับผู้พูดหรือ Speaker นั้นจะถูกคัดเลือกมาอย่างหลากหลาย ครอบคลุม topic กว้างขวาง ความหลากหลายนี้เองที่ทำให้ TED ไม่เหมือนเวทีทอล์คไหนๆ หัวข้อของ TED มีตั้งแต่เรื่อง ไดโนเสาร์ DNA ความกลัว ศาสนา ประเทศ Sex อินเตอร์เน็ท พระเจ้า ฯลฯ ซึ่ง TED จะมองหา Speaker ทีมี  ‘leading thinker and doer’ คือผู้ที่ทั้งความคิดที่ดีเยี่ยมและผ่านการลงมือทำมาแล้วอย่างจริงจัง ไม่ใช่เป็นเพียงการทอล์คที่สรรคำสวยงามมาสร้างแรงบันดาลใจ ความคิดและพลังบวกที่ออกมาจากตัว Speaker จึงไม่ใช่ถ้อยคำหลักลอย แต่ล้วนผ่านการเผชิญเรื่องราวและลงมือทำกันมาแล้วทั้งสิ้น

และนี่คือ 10 คลิปเกี่ยวกับอิสลามและความเป็นมุสลิม ที่ TEDTalks แนะนำให้เราดู

01- Bassam Tariq
ความงดงามและความหลากหลายของชีวิตมุสลิม

Bassam Tariq ชายที่เป็นทั้งคนเขียนบล็อก ผู้กำกับภาพยนตร์ และพ่อค้าเนื้อฮาลาลในคนเดียวกัน สิ่งหนึ่งที่เชื่อมโยงงานของเขาให้เป็นเรื่องเดียวกันได้ก็คือ ความรู้สึกสุขใจที่เขามีต่อความหลากหลายในความเป็นมนุษย์ในทุกประสบการณ์ชีวิตของผู้คน ในการพูดอันน่าหลงใหลชิ้นนี้เขาได้นำเสนอส่วนหนึ่งจากภาพยนตร์ “These Birds Walk” ที่เขาลงทุนกำกับเองให้เราได้รับชม พร้อมภาพถ่ายจากประสบการณ์การเดินทางเยือนมัสยิด 30 แห่งใน 30 วันของเขา ที่จะย้ำเตือนให้เราได้ตระหนักถึงความซับซ้อนอันงดงามที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวเราทุกคน


02- Yassmin Abdel-Magied
ฮิญาบของฉันในความหมายของคุณคืออะไร?

เมื่อเห็นนักพูดคนนี้ คุณคิดอย่างไร? เอาล่ะ..คุณลองคิดใหม่ซิ (เสร็จแล้วก็ลองคิดใหม่อีกครั้ง) ในงานพูดที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ความจริงใจ และการเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นชิ้นนี้ Yassmin Abdel-Magied ท้าให้เราลองรู้จักมองลึกเข้าไปให้มากกว่าความคิดความรู้สึกเบื้องต้นที่เรามี แล้วลองเปิดประตูหัวใจเพื่อยอมรับวิธีใหม่ๆ ในการช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นดูสักครั้ง


03-Dalia Mogahed
อีกหนึ่งความรู้สึกของการเป็นมุสลิมในอเมริกา

เมื่อเห็นหน้านักวิชาการหญิงมุสลิมอย่าง Dalia Mogahed คุณมองเห็นอะไร? คุณเห็นผู้หญิงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศรัทธา ? หรือเห็นนักวิชาการ ? หรือแม่คนหนึ่ง ? หรือพี่สาว ? หรือโจรก่อการร้ายที่โดนล้างสมองให้รู้จักแต่ความรุนแรง ? นี่เป็นการพูดที่บอกเล่าเรื่องราวส่วนตัวอันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง  Mogahed ได้เรียกร้องให้เราลองหันมาต่อสู้กับทัศนคติเชิงลบที่บรรดาสื่อได้พยายามสร้างความแปดเปื้อนให้กับศาสนาที่เธอศรัทธา ในช่วงเวลาแห่งความแตกแยกเช่นนี้  เธอเชิญชวนให้เราเลือกที่จะเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน มากกว่าที่จะมาสร้างความอคติให้เราจงเกลียดจงชังกันมากขึ้น


04- Suzanne Barakat
อิสลาโมโฟเบียฆ่าพี่ชายของฉัน พอกันทีเถอะ..ความเกลียดชัง

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2015 Deah พี่ชายของ Suzanne Barakat และ Yusor พี่สะใภ้ของเธอพร้อมด้วย Razan น้องสาวของ Yusor ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมโดยเพื่อนบ้านของพวกเขาเองในเมือง Chapel Hill รัฐ North Carolina เนื้อหาคำให้การของฆาตกรที่บอกว่า เขาสังหารผู้ตายเนื่องจากขัดแย้งกันเรื่องที่จอดรถนั้นไม่ได้เป็นที่สงสัยของบรรดาสื่อและตำรวจแต่อย่างใดเลย จนกระทั่ง Barakat ออกมาเปิดเผยความจริงต่อหน้าสื่อในการแถลงข่าว ว่าที่จริงต้นตอแห่งการฆาตกรรมครั้งนี้ล้วนมาจากความเกลียดชังทั้งสิ้น Barakat เล่าสะท้อนถึงเรื่องราวที่เธอและครอบครัวของเธอพยายามเรียกร้องทวงคืนสิทธิที่จะได้ออกมาบอกเล่าความจริงให้ทุกคนรับรู้ พร้อมกับเชิญชวนให้เราทุกคนกล้าที่จะออกมาพูดความจริงให้โลกรู้เมื่อเราพบเห็นการแสดงออกถึงความเชื่อและความรู้สึกที่ไร้เหตุผลและสร้างความจงเกลียดจงชัง และพยายามแสดงความเป็นมิตรและอารมณ์ร่วมกับใครก็ตามที่ต้องพบเจอกับปัญหาการถูกกีดกันจากสังคม


05- Alaa Murabit
ความเป็นจริงเกี่ยวกับผู้หญิงที่ศาสนาของฉันเล่าให้ฟัง  

ศรัทธาอันแรงกล้าคือจุดเด่นของบุคลิกและตัวตนของ Alaa Murabit แต่ครั้นเมื่อเธอต้องย้ายถิ่นฐานจากแคนาดาไปตั้งรกรากใหม่ที่ประเทศลิเบีย ในฐานะหญิงสาวคนหนึ่ง เธอกลับต้องแปลกใจเมื่อค้นพบว่าความเชื่อและคำสอนของอิสลามกลับถูกนำไปใช้ในการกดขี่ข่มเหง จำกัดสิทธิเสรีภาพ และความสามารถในการเป็นผู้นำของสุภาพสตรีเป็นอย่างมาก จนเธอเริ่มสงสัยว่า นี่มันใช่หลักการที่ศาสนากำหนดจริงๆ หรือ? ด้วยอารมณ์ขัน ด้วยความชอบส่วนตัว และด้วยสปิริตอันดื้อรั้นที่แอบแฝงไปด้วยความสดใส  Alaa ได้บอกเล่าสิ่งที่เธอค้นพบจากตัวอย่างของผู้นำสตรีในประวัติศาสตร์อิสลาม และการที่เธอนำบางวรรคตอน(อายะห์)จากคัมภีร์อัลกุรอานมาใช้เป็นกระบอกเสียงเพื่อพูดแทนความในใจของผู้หญิงเหล่านั้นให้โลกได้รับรู้


06- Deeyah Khan
สิ่งที่เราไม่รู้เกี่ยวกับเด็กมุสลิมยุโรป

ในฐานะเป็นเด็กที่มีแม่เป็นชาวอัฟกานิสถาน พ่อเป็นชาวปากีสถาน และเติบโตในประเทศนอร์เวย์  Deeyah Khan รู้ดีว่าความรู้สึกของการเป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องติดอยู่กึ่งกลางระหว่างสังคมของคุณและประเทศที่คุณอาศัยอยู่นั้นเป็นเช่นไร ในการพูดอันทรงพลังที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกครั้งนี้ ผู้สร้างภาพยนตร์คนนี้ได้ขุดคุ้ยความรู้สึกของการถูกปฏิเสธและความโดดเดี่ยวของเด็กมุสลิมที่เติบโตในโลกตะวันตกส่วนใหญ่ต้องเผชิญตลอดมา เธอยังได้บอกเล่าถึงความเลวร้ายและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นหากเราไม่ช่วยกันดูแลใส่ใจเยาวชนของเราให้เข้มแข็ง ก่อนที่กลุ่มคนหัวรุนแรงจะแย่งชิงหน้าที่นั้นไปจากเราอย่างน่าเสียดาย


07- Karima Bennoune
เมื่อมุสลิมเริ่มท้าทายต่อความเป็น Fundamentalism ในอิสลาม

Karima Bennoune ได้บอกเล่า 4 เรื่องราวอันทรงพลังของบุคคลที่ต่อสู้กับแนวคิด Fundamentalism หรือการใช้กำลังบังคับคนอื่นให้นับถือศาสนาของตนเอง (อ้างอิงความหมายจาก-อับดุลสุโก ดินอะ ใน มุสลิมสุดโต่ง การยึดมั่นในหลักการอิสลาม และอิสลามานุวัตร) ในชุมชนของตนเอง พวกเขาปฏิเสธที่จะปล่อยให้ศรัทธาที่พวกเขารักนั้นต้องกลายเป็นอาวุธที่ใช้เพื่อการก่ออาชญากรรม การต่อสู้โจมตี และการเข่นฆ่าทารุณ เรื่องราวของพวกเขาเหล่านี้ได้เพิ่มคุณค่าความเป็นมนุษย์ให้กับการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อสิทธิมนุษยชนที่ถูกมองข้ามมากที่สุดในโลกขณะนี้


08- Manwar Ali
ในห้วงความคิดของอดีตนักรบญิฮาด

“เมื่อนานมาแล้ว ฉันเคยมีชีวิตอยู่เพื่อความตาย” เป็นคำพูดของ Manwar Ali อดีตนักรบญิฮาดผู้ซึ่งเคยเข้าร่วมสงครามสู้รบอันแสนโหดร้ายทารุณในแถบตะวันออกกลางและเอเชียช่วงปี ค.ศ. 1980 มาหลายสมรภูมิ ในการพูดอันโน้มน้าวครั้งนี้เขาได้เล่าสะท้อนถึงประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยได้เข้าร่วมขบวนการกับกลุ่มหัวรุนแรง พร้อมกับพูดโน้มน้าวและวิงวอนอย่างแรงกล้ากับใครก็ตามที่ถูกชักชวนให้เข้าร่วมอุดมการณ์เดียวกันกับกลุ่มหัวรุนแรง ที่มักแอบอ้างว่าความรุนแรงและความโหดเหี้ยมนั้นเป็นสิ่งที่ดีงามและน่าเคารพยกย่อง ว่าให้ปลดปล่อยความโกรธเกลียดชิงชังเสียเถิด แล้วลองหันกลับมาบ่มเพาะหัวใจของคุณให้มองเห็นคุณค่าของความดี ความงดงาม และความเป็นจริงที่มีอยู่ในตัวผู้อื่น


09- Negin Farsad
วิทยาศาสตร์ชั้นสูงในการจัดหมวดหมู่คนช่างเกลียด

มิตรสหายของ TED อย่าง Negin Farsad สามารถผสมผสานมุกตลกขบขันและคำวิจารณ์สังคมเพื่อลบภาพพจน์บางอย่างของวัฒนธรรมที่เธอยึดถือได้อย่างลงตัว ในการพูดอันแสนตลกโปกฮาแต่ดูโดดเด่นครั้งนี้ Farsad ได้พูดเกี่ยวกับสารคดีที่เธอทำขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า The Muslims Are Coming! พร้อมนำเสนอข้อมูลจำแนกแยกย่อยของแต่ละกลุ่มประเภทของคนช่างเกลียดที่เธอเคยพบเจอตลอดการทำงานที่ผ่านมา เธอกล่าวว่า “ความตลกขบขันยังคงเป็นหนึ่งในอาวุธที่ดีที่สุดของเรา” เธอกล่าวอีกว่า “เราได้เคยลองมาตรการรับมือกับความยุติธรรมในสังคมมาเยอะแยะมากมาย นับตั้งแต่การสร้างสงครามไปจนถึงการแข่งขันเต้นระบำน้ำแข็ง  แต่กระนั้นส่วนใหญ่ที่ลองมาก็ดูเหมือนจะไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่  ฉันจึงคิดว่านี่คงถึงเวลาแล้วล่ะที่เราน่าจะลองใช้วิธีปล่อยมุกตลกหน้าตายดีๆ ดูสักที”


10- Mustafa Akyol
ระหว่างหลักศรัทธาและขนบธรรมเนียมประเพณี

นักข่าวอย่าง Mustafa Akyol พูดถึงวิถีและแนวทางการปฏิบัติด้านประเพณีนิยมท้องถิ่นบางอย่างที่ส่วนใหญ่ได้ถูกนำมาเชื่อมโยงกับหลักศรัทธาในอิสลาม  พร้อมกับตั้งคำถามว่า แนวคิดทั่วไปเกี่ยวกับศรัทธาแห่งอิสลามในโลกปัจจุบันกำลังมุ่งโฟกัสไปที่ขนบธรรมเนียมประเพณีมากเกินไป จนไม่มีพื้นที่เพียงพอให้กับหลักศรัทธาที่แท้จริงแล้วจริงหรือ ?

 

แปลและเรียบเรียงโดย : Andalas Farr
ที่มา : Misconceptions of Islam and Muslim life

อ่านเรื่องนี้แล้วคิดอย่างไร ?

About author View all posts

Andalas Farr

คุณแม่ลูกสามผู้หลงใหลงานแปลภาษาเป็นชีวิตจิตใจ และรักงานเขียน งานสอนที่เชิญชวนสู่เส้นทางแห่งความดี ไม่ได้เป็นลูกครึ่งแต่รู้สึกผูกพันกับภาษาอังกฤษเป็นพิเศษ ชนิดเห็นประโยคแล้วสมองต้องประมวลภาษาโดยอัตโนมัติ Andalas จบการศึกษาระดับปริญาตรีและโทคณะมนุษย์ศาสตร์เอกภาษาอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยอิสลามนานาชาติประเทศมาเลเซีย ปัจจุบันใช้ชีวิตส่วนใหญ่ไปกับครอบครัว ลูก และตัวอักษร